คู่มือสำหรับฝ่ายจัดซื้อยุคใหม่ เลือกบริการ ให้เช่าเครื่องชงกาแฟ อย่างมืออาชีพ พร้อมวิธีเปรียบเทียบ วิเคราะห์สัญญา และคำนวณความคุ้มค่า
การมีเครื่องชงกาแฟภายในออฟฟิศ ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการพื้นฐานที่หลายองค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญ เพราะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี กระตุ้นพลังงาน และเพิ่มความสุขให้กับทีมงาน แต่การจัดหาเครื่องชงกาแฟกลับไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายจัดซื้อ
ดังนั้นบริการ ให้เช่าเครื่องชงกาแฟ จึงกลายเป็นตัวเลือกที่องค์กรจำนวนมากนำมาใช้แทนการซื้อขาด บทความนี้จะพาคุณไปทีละขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินความต้องการ เปรียบเทียบบริการ วิเคราะห์สัญญา ไปจนถึงคำนวณผลตอบแทน เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้แบบมือโปรและไม่พลาดประเด็นสำคัญ

ทำไมฝ่ายจัดซื้อควรพิจารณาการเช่าเครื่องชงกาแฟ?
- ลดค่าใช้จ่ายด้าน CapEx (การลงทุนซื้อขาด) และปรับเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน (OpEx)
- ไม่ต้องรับภาระเรื่องการซ่อมบำรุงหรือบริการหลังการขายเอง
- เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีหลายแผนก ทำให้บริหารจัดการได้ง่าย
- รองรับการเพิ่มหรือลดจำนวนพนักงานได้สะดวก

Checklist ก่อนตัดสินใจเช่าเครื่องชงกาแฟ
เพื่อให้การเลือก เช่าเครื่องชงกาแฟ คุ้มค่าที่สุด ควรพิจารณาจากเกณฑ์ต่อไปนี้:
✅ 1. ประเมินจำนวนผู้ใช้งาน
จำนวนพนักงาน | ประเภทเครื่องแนะนำ |
10–30 คน | Fully Automatic Machine |
มากกว่า 30 คน | Bean-to-Cup หรือเครื่องต่อท่อ |
✅ 2. ความถี่ในการใช้งาน
- ใช้งานแค่เช้า–บ่าย หรือมีการชงต่อเนื่องทั้งวัน
- ต้องการเมนูหลากหลาย (Espresso, Latte, Americano ฯลฯ) หรือเน้นเมนูพื้นฐาน
✅ 3. พื้นที่ติดตั้ง
- ตรวจสอบว่ามีปลั๊กไฟ น้ำใช้ และพื้นที่สำหรับถังน้ำทิ้งหรือไม่
- ต้องการแบบตั้งโต๊ะหรือเครื่องเชิงพาณิชย์
✅ 4. การบำรุงรักษา
- ต้องการ Onsite Service หรือ Remote Support
- ให้ผู้ให้บริการทำความสะอาดเครื่อง หรือสามารถดูแลเองได้
✅ 5. ระดับบริการที่เหมาะสม
ไม่ควรเริ่มจากตัวเลขงบประมาณ แต่ประเมินจากรูปแบบการใช้งานและบริการที่องค์กรต้องการ
ระดับบริการ | เหมาะกับองค์กรลักษณะใด | รายละเอียด |
Basic | องค์กรขนาดเล็ก ใช้งานไม่ซับซ้อน | เครื่องชงขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย พร้อมบริการพื้นฐาน เช่น ส่งถึงที่ ติดตั้ง |
Standard | องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ | เครื่องอัตโนมัติ รองรับหลายคน พร้อมบริการดูแล–ซ่อมบำรุง |
Premium | องค์กรที่เน้นภาพลักษณ์และคุณภาพสูง | เครื่องโปรเกรด พร้อมบริการเสริม เช่น อัปเกรด เปลี่ยนอะไหล่ จัดส่งวัตถุดิบ |

วิธีอ่านและทำความเข้าใจสัญญาเช่าเครื่องชงกาแฟ
สิ่งที่ควรตรวจสอบในสัญญามีดังนี้::
1. ระยะเวลาสัญญา
- ระบุชัดว่าเป็นรายเดือน รายปี หรือขั้นต่ำกี่เดือน
- ตรวจสอบนโยบายยกเลิกก่อนครบสัญญา
2. รายละเอียดเครื่อง
- ระบุรุ่น ขนาด ความสามารถต่อชั่วโมง
- เป็นเครื่องใหม่หรือเครื่องที่ผ่านการใช้งาน
3. บริการที่รวมมาให้
- รวมเมล็ดกาแฟหรือไม่
- มีบริการซ่อม บำรุง เปลี่ยนอะไหล่หรือไม่
- มีเครื่องสำรองระหว่างซ่อมหรือไม่
4. เงื่อนไขความเสียหาย
- หากใช้งานผิดวิธี ใครต้องรับผิดชอบ
- มีประกันอุปกรณ์หรือไม่
5. ค่าใช้จ่ายแฝง
- ค่าขนส่ง ติดตั้ง หรือล้างเครื่องคิดเพิ่มหรือไม่
- หากเลิกสัญญาก่อนกำหนด มีค่าปรับเท่าไร
กรณีศึกษา: บริษัทที่เปลี่ยนจากซื้อมาเป็นเช่าแล้วประหยัดจริง
🏢 บริษัทเทคโนโลยีขนาดกลาง (150 คน)
ก่อนเปลี่ยน:
- มีเครื่อง 3 เครื่อง (ซื้อขาด)
- ค่าใช้จ่ายรวมปีแรก: 180,000 บาท
- ปีถัดมามีค่าซ่อมและอะไหล่เพิ่ม 32,000 บาท
- พนักงานต้องสลับกันดูแลเครื่อง เสียเวลา 10 ชม./เดือน
หลังเปลี่ยน:
- หันมาเช่าเครื่อง Fully Automatic 3 เครื่อง
- จ่ายเพียง 15,000 บาท/เดือน (180,000 บาท/ปี)
- รวมบริการซ่อม ดูแล ทำความสะอาด และเปลี่ยนอะไหล่
ผลลัพธ์:
- ลดต้นทุนบำรุงรักษา
- ประหยัดเวลาพนักงาน → เพิ่ม Productivity
- สามารถอัปเกรดเครื่องได้เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่

การวิเคราะห์ ROI ของการเช่าเครื่องชงกาแฟในองค์กร
Return on Investment (ROI) จากการเช่าเครื่องชงกาแฟอาจไม่ใช่ตัวเลขรายรับแบบตรง ๆ แต่สามารถวิเคราะห์ได้ในเชิงคุณค่าและต้นทุนดังนี้:
📊 ตัวเลขเชิงปริมาณ
ตัวชี้วัด | วิธีคำนวณ |
ต้นทุนต่อแก้ว | ค่าบริการรายเดือน ÷ จำนวนแก้วต่อเดือน |
เวลาที่ประหยัด | เวลาพนักงานที่ไม่ต้องชงเอง × ค่าแรงเฉลี่ย |
ค่าใช้จ่ายแฝง | ค่าซ่อม ค่าล้าง และเวลาส่งซ่อม |
📈 เชิงคุณภาพ
- ความพึงพอใจของพนักงาน
- ภาพลักษณ์องค์กร (โดยเฉพาะบริษัทที่มีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมบ่อย)
- ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนเครื่องหรือเพิ่มบริการ
✅ หากต้นทุนเฉลี่ยไม่เกิน 5 บาท/แก้ว รวมค่าบริการและเมล็ดกาแฟ ถือว่าคุ้มค่าอย่างแท้จริงในเชิงองค์กร
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: เลือกเช่าจากผู้ให้บริการรายเล็กหรือรายใหญ่ดีกว่า?
A: รายใหญ่มีมาตรฐาน บริการครอบคลุม และมีรุ่นใหม่ให้เลือกมากกว่า ส่วนรายเล็กอาจราคาดีแต่ควรตรวจสอบเรื่องบริการหลังการขาย
Q2: ต้องมีพื้นที่เฉพาะหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น เครื่องบางรุ่นออกแบบมาสำหรับออฟฟิศพื้นที่จำกัด ควรสอบถามผู้ให้บริการว่ามีรุ่นตั้งโต๊ะหรือไม่
Q3: หากมีหลายแผนกในตึกเดียว ควรเช่าเครื่องเดียวหรือหลายเครื่อง?
A: ขึ้นอยู่กับจำนวนคนและพฤติกรรมการใช้ หากใช้งานพร้อมกันควรมีหลายเครื่องเพื่อลดการรอคิว
สรุป
สำหรับฝ่ายจัดซื้อองค์กร การเลือกใช้บริการ เช่าเครื่องชงกาแฟ (รายละเอียด Subscription) ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราคา แต่คือการวิเคราะห์ความต้องการ ประเภทเครื่อง และเงื่อนไขสัญญาอย่างรอบคอบ การตรวจสอบรายละเอียดบริการและเลือกผู้ให้บริการที่ไว้ใจได้ จะช่วยให้องค์กรได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าในระยะยาวหากองค์กรของคุณกำลังพิจารณาการ ให้เช่าเครื่องชงกาแฟ และต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงานจาก Peaberrythai พร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยคุณเลือกโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้จริง